UFABETWINS “รอน ฮาร์เปอร์” : การ์ดเบอร์รองที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของ “จอร์แดน-โคบี”

UFABETWINS

UFABETWINS “ทุกคนมักจะถามผมว่า ระหว่าง เอ็มเจ กับ โคบี ใครเก่งกว่ากัน? เพราะผมได้เล่นร่วมกับพวกเขาในวันที่พวกเขาอยู่ในจุดพีคทั้งคู่ เอางี้ ผมจะเล่าให้ฟัง”

บาสเกตบอล คือกีฬาที่ส่งผู้เล่นลงสนามได้ 5 คนก็จริง ทว่าในการแข่งขันจริง ผู้เล่นแทบทั้งทีมจะได้มีส่วนร่วมกับเกมเสมอ การเปลี่ยนเข้า เปลี่ยนออก เกิดขึ้นได้ทุกวินาที และนั่นคือเหตุผลว่าทำไมใน NBA จึงควรมีผู้เล่นที่หลากหลาย และมีตัวสำรองที่คุณภาพการเล่นสูง นี่คือเรื่องราวของตัวสำรองอย่าง รอน ฮาร์เปอร์ ชายผู้อยู่ในหน้าประวัติศาสตร์ด้วยการเป็นลูกหาบของ ชิคาโก บูลส์ ในยุคที่ ไมเคิล จอร์แดน เรืองอำนาจ และ สมาชิกของ ลอสแอนเจลิส เลเกอร์ส

ในวันที่ โคบี ไบรอันท์ เพิ่งก้าวขึ้นมารุ่งเรือง เขามีส่วนสำคัญอย่างไรในการผลักดัน 2 โคตรผู้เล่นแห่งยุค? และคำตอบที่เพิ่งเปิดเผยว่า สำหรับ รอน ฮาร์เปอร์ โคบี หรือ เอ็มเจ เก่งกว่ากัน? จะถูกเฉลยที่นี่ ไม่ได้มาเพื่อแทนใคร รอน ฮาร์เปอร์ คือผู้เล่นตำแหน่งการ์ดฝีมือดีมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เขาใช้เวลา 4 ปีที่มหาวิทยาลัยไมอามี สร้างผลงานที่โดดเด่นเกินผู้เล่นรุ่นเดียวกัน เขาคว้ารางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของ MAC (Mid-American Conference) ได้ 2 สมัย

และเป็นเจ้าของสถิติทำแต้มได้มากที่สุดตลอดกาลของทีมด้วยแต้มรวม 2,377 คะแนน หลังจากนั้นเขาก็เลือกเข้าสู่ระบบการดราฟต์ผู้เล่นของ NBA คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส คือทีมแรกของเขาด้วยการเป็นดราฟต์อันดับที่ 8 ในปี 1986 จุดเริ่มต้นใน NBA เป็นไปอย่างน่าตื่นตาตื่นใจ ปีแรก ฮาร์เปอร์ โชว์ฟอร์มได้ดี ยิงเฉลี่ยเกมละ 22.9 แต้ม 4.8 แอสซิสต์ และ 4.8 รีบาวด์ นั่นมากพอทำให้เขาถูกจัดให้เป็นหนึ่งในผู้เล่นรุกกี้ยอดเยี่ยมแห่งปีของ NBA เลยทีเดียว

UFABETWINS

ฮาร์เปอร์ เด่นขึ้นเรื่อยๆในทุกๆปี และได้รับการเทรดไปอยู่กับ แอลเอ คลิปเปอร์ส ในฤดูกาล 1989-90 ที่แอลเอ เขาไต่ระดับขึ้นมาเป็นกัปตันทีมได้สำเร็จ และนั่นทำให้ท้ายที่สุดแล้ว ทีมที่เก่งที่สุดในยุคนั้นอย่าง ชิคาโก บูลส์ ก็เซ็นสัญญาเขาไปในฐานะผู้เล่นฟรีเอเย่นต์ในฤดูกาล 1994-95 เหตุผลเดียวที่ บูลส์ ต้องการตัวทำแต้มอย่าง ฮาร์เปอร์ นั่นก็เพราะว่าหลังจากจบฤดูกาล 1993-94 ไมเคิล จอร์แดน ได้ประกาศว่าจะออกจากวงการ NBA หน้าที่ที่ ฮาร์เปอร์

ในวัย 30 ปีต้องทำ คือนำเอาประสบการณ์ที่สั่งสมมาเข้ามาช่วยทั้งทีม เพื่อทดแทนการขาดหายไปของคนที่เก่งที่สุดอย่าง จอร์แดน นั่นเอง “เขาเป็นเป้าหมายของเรามานานแล้ว รอน ฮาร์เปอร์ จะทำให้เรามีทีมที่โดดเด่นเรื่องการเล่นเกมรับ เขามีทัศนคติที่ดีและเป็นคนที่แข็งแกร่งตรงกับคาแร็คเตอร์ของทีมเรา” เจอร์รี่ เคราส์ ผู้จัดการทั่วไปของ บูลส์ ว่าไว้เช่นนั้น หนังสือพิมพ์ Chicago Tribune พยายามอธิบายว่าทำไมต้องเป็น ฮาร์เปอร์ ด้วยการขยายความว่า

เขาคนนี้อาจจะไม่เข้ากับกลยุทธ์สามเหลี่ยม หรือ Triangle Offense ที่ ฟิล แจ็คสัน โค้ชของทีมสร้างให้ บูลส์ เรืองรองมาหลายปี แต่สิ่งที่ แจ็คสัน ต้องการจากเขาไม่ใช่การเล่นแบบนั้น เขารู้ดีว่าการขาดหายไปของ จอร์แดน จะทำให้เกมรุกของทีมหายไป แต่ในขณะเดียวกันเกมรับก็เล่นยากขึ้น เพราะเมื่อ จอร์แดน อยู่ บูลส์ มักจะเป็นฝ่ายบุกและเล่นเกมรุกมากกว่า ดังนั้น เมื่อไม่มี จอร์แดน ชิคาโก บูลส์ ต้องการผู้เล่นที่สร้างความสมดุลให้ทีมอย่าง รอน ฮาร์เปอร์ นั่นเอง

“เราให้คำจำกัดความของ รอน ว่าเป็นผู้เล่นที่มีส่วนผสมของนักทำแต้ม และคนที่เล่นเกมรับได้ดี ผู้เล่นแบบนี้ที่เรามองหา เขาจะเข้ามาและลงตัวในระบบการเล่นของเราแน่นอน” ฟิล แจ็คสัน ว่าไว้ อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาล 1994-95 เริ่มขึ้น หลายคนมองข้ามสิ่งที่ ฟิล แจ็คสัน บอก โฟกัสของทุกหน้าหนังสือพิมพ์เอาแต่พูดเรื่องการขาดหายไปของ จอร์แดน เสมอ เกมใดที่ บูลส์ แพ้ พาดหัวข่าวก็มักจะออกมาในแนวๆที่ว่า “ขาด MJ ขาดใจ” อะไรประมาณนั้น

แม้ว่าความจริงการที่ จอร์แดน ไม่อยู่ก็ส่งผลแน่ ทว่าผู้เล่นของ บูลส์ ชุดนั้นช่วยกันทำหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ เพื่อทดแทนสิ่งที่ขาดหายไป และ สก็อตตี้ พิพเพ่น ก็ขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญหลัก ขณะที่ ฮาร์เปอร์ ที่เข้ามาในฐานะผู้เล่นใหม่ก็เป็นส่วนเติมเต็มที่ยอดเยี่ยม สถิติของ ฮาร์เปอร์ คือการได้ออกสตาร์ท 53 จาก 77 เกม การทำแต้มของเขาลดลงจากสมัยเล่นให้กับ คลิปเปอร์ส และ แคฟส์ พอสมควร เหลือเพียง 6.9 แต้มต่อ 1 เกม แต่นั่นเองเป็นแท็คติกของ

ฟิล แจ็คสัน ที่ต้องการให้ ฮาร์เปอร์ เข้ามาอุดเกมรับ และใช้มันเป็นจุดเด่นจนทำให้ บูลส์ เข้าไปถึงรอบตัดเชือกสายตะวันออกของ NBA ก่อนจะแพ้ ออร์แลนโด แมจิค ไป 2-4 เกมอย่างที่ทุกคนรู้กัน ฮาร์เปอร์ เองรู้สึกผิดหวังกับการเล่นของตัวเองบ้างในปีที่ทีมพลาดแชมป์ทันทีที่ จอร์แดน ไม่อยู่ อย่างไรก็ตาม เขาถูกตั้งใจให้เปลี่ยนแปลงการเล่นเต็มรูปแบบ จากการเป็นคนทำแต้ม ให้เป็นคนที่เน้นเกมรับมากกว่าที่เคย แผนของ แจ็คสัน ทำให้ ฮาร์เปอร์

ต้องมาเรียนรู้การเล่นแบบใหม่ในวัย 30 ปี มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆสำหรับคนที่เล่นแบบเดิมมาทั้งชีวิต.. เขาอาจจะผิดหวังกับผลงาน แต่ไม่เคยหยุดที่จะพัฒนาตัวเอง เพราะเขาเชื่อว่ามันต้องมีเหตุผลแน่นอน กับสาเหตุที่ทำให้เขาเล่นมาจนปูนนี้ก็ยังไม่ได้เข้าใกล้คำว่าแชมป์สักครั้ง ความหมายอีกนัยคือ ฮาร์เปอร์ อยากจะลองเป็นคนเล่นเกมรับเต็มสูบดูบ้าง และเชื่อว่าการเรียนรู้ครั้งนี้จะช่วยเติมเต็มอาชีพนักบาสเกตบอล NBA ของเขาได้ด้วยถ้วยแชมป์

“ผมอาจจะไม่ค่อยได้พูดให้ใครได้ฟังมากนัก แต่ที่จริงแล้วการมาที่ บูลส์ ทำให้ผมรู้ว่าตัวเองยังต้องเรียนรู้อีกเยอะเลย ในปีที่ทีมล้มเหลวไปไม่ถึงแชมป์ กลับเป็นปีที่ผมเติบโตขึ้น ทัศนคติของผมเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง” ฮาร์เปอร์ ว่าถึงปีที่หลายคนโจมตีว่า เขาเป็นการเสริมตัวที่ไม่เข้าท่า “ผมรู้ดีว่าการเปลี่ยนสไตล์การเล่นและเปลี่ยนวิธีคิดเป็นเรื่องยาก ผู้เล่นหลายคนไม่สามารถเปลี่ยนมันได้ แต่นั่นไม่ใช่กับผมหรอก ผมจะทำมัน

UFABETWINS

เพราะผมอยากเป็นส่วนหนึ่งของทีมที่เป็นแชมเปี้ยน” มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ทำแบบเดิมทุกวันและหวังผลลัพธ์ที่แตกต่าง ไอน์สไตน์ เคยว่าไว้ และ รอน ฮาร์เปอร์ กำลังทำแบบคำกล่าวนั้นด้วยตนเอง เมื่อ “ราชา” กลับมา 1995-96 คือหนึ่งในฤดูกาลที่ผู้คนเล่าขานกันว่าคือหนึ่งในซีซั่นที่ยอดเยี่ยมที่สุดของ ชิคาโก บูลส์ สาเหตุสำคัญ คือ การกลับมาของราชาอย่าง จอร์แดน ที่หวนคืนวงการและกลับมาใส่มงกุฎอีกครั้ง และเมื่อเขากลับมา ทีมที่รออยู่ก็พร้อมแล้วสำหรับ

การตอบสนองความกระหายของ จอร์แดน จอร์แดน เล่นเกมรับได้ใครก็รู้ แต่จะดีกว่าไหมหากเขาได้เล่นเกมบุกแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทำแต้มให้มากพอเอาให้สาแก่ใจ นี่คือสิ่งที่ทำให้เหมือนราวกับว่า ฟิล แจ็คสัน ยอมเสียเวลาสร้างทีม 1 ปีเพื่อรอให้ จอร์แดน กลับมาเล่นได้มีประสิทธิภาพที่สุด หากให้เปรียบเทียบ มันคือการถอยหลัง 1 ก้าวเพื่อก้าวกระโดดไปข้างหน้า 3 ก้าว 1 ปีที่ ฮาร์เปอร์ ไปฝึกเล่นเกมรับและเรียนรู้แท็คติกของ แจ็คสัน มากพอที่จะทำให้เขาเป็นผู้เล่น

ที่สุกงอม พร้อมเป็นกำลังสำคัญของทีมพอดิบพอดี การมี ฮาร์เปอร์ อยู่ในทีมคือส่วนประกอบที่ทำให้ บูลส์ ชุดนั้นไร้เทียมทาน “รอน ฮาร์เปอร์ เข้ามาเป็นชิ้นส่วนสำคัญในทีมชุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เขาอาจจะเริ่มเล่นด้วยการนั่งเป็นตัวสำรองในปีแรก แต่ฤดูกาล 1995-96 เขาได้เรียนรู้แล้วว่าบทบาทของเขาในทีมคืออะไร.. นั่นคือการเข้ามาและทำให้ ชิคาโก บูลส์ กลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีเกมรับที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA” เดวิด วีซอง ผู้เขียนบทความเกี่ยวกับ NBA

ให้ความเห็นผ่านสื่อ Sportscasting บูลส์ ได้ 5 ผู้เล่นที่เปรียบเหมือนกับ 5 เซียนเจ้าสำนักในหนังจีน และถูกเรียกว่าทีมที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ NBA เมื่อมีใครก็ตามไล่ชื่อผู้เล่นทั้ง 5 ชุดนั้น ชื่อของ ไมเคิล จอร์แดน จะมาเป็นอันดับ 1, ตามมาด้วย สก็อตตี้ พิพเพ่น และอันดับ 3 คือ เดนนิส ร็อดแมน.. ขณะที่อีก 2 คนที่มักจะถูกพูดแบบห้อยท้ายคือ ลุค ลองลีย์ และแน่นอน รอน ฮาร์เปอร์ ก็เช่นกัน

 

คลิ๊กเลย >>>  https://www.ufabetwins.com/

อ่านข่าวเพิ่ม >>>  บ้านผลบอล