อูไน เอเมรี่ เทรนเนอร์วัย 49 ปีฉลองการคว้าแชมป์ ยูโรปาลีก ร่วมกับ บียาร์เรอัล ซึ่งเป็นความสำเร็จแรกในประวัติศาสตร์ 98 ปีของสโมสร
อูไน เอเมรี่ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการถูกเรียนขานว่า ‘มิสเตอร์ยูโรปาลีก’ ของเขานั้นไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่เกิดขึ้นด้วยฝีมือล้วนๆหลังการนำ บียาร์เรอัล คว้าแชมป์ยูโรปาลีก ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งแรกในรอบ 98 ปีของสโมสรและยังเป็นการคว้าแชมป์รายการนี้สมัยที่ 4 จากการนำต้นสังกัดเข้ารอบชิงชนะเลิศ 5 ครั้ง
เอเมรี่ เคยสร้างชื่อด้วยการเป็นเทรนเนอร์คนแรกและคนเดียวที่คว้าแชมป์ยูโรปาลีก 3 ปีติดต่อกัน จากการนำ เซบีย่า สอยแชมป์ในช่วงปี 2014-2016
ทีมเซบียาโน่ดวลเป้าชนะ เบนฟิก้า 4-2 หลังเสมอในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ 0-0 ในซีซั่น 2013-2014 ต่อด้วยการเฉือนชนะ ดนีโปร ดนีโปเปตรอฟส์ค 3-2 ในนัดชิงชนะเลิศของฤดูกาล 2014-2015 ตบท้ายด้วยเกมสยบ ลิเวอร์พูล 3-1 ในแมตช์ชิงดำซีซั่น 2015-2016
เทรนเนอร์ชาวบาสโก้ยังนำ อาร์เซน่อล เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศของฤดูกาล 2018-2019 แต่เสียสถิติหลังการปราชัยต่อ เชลซี ของ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ด้วยสกอร์ 1-4
ก่อนเทรนเนอร์วัย 49 ปีจะแก้ตัวสำเร็จด้วยการนำ บียาร์เรอัล ดวลเป้าชนะ แมนฯยูไนเต็ด 11-10 หลังเสมอกันในเวลาปกติและช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-1 เมื่อวันพุธที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นั่นคือการนำสโมสรต้นสังกัดคว้าแชมป์ยูโรปาลีกสมัยที่ 4 จากการเข้ารอบชิงชนะเลิศรายการนี้ 5 ครั้ง
‘ในยูโรปาลีก เราไร้ที่ติแน่นอน’ เอเมรี่ กล่าวหลังการนำทีมเรือดำน้ำเหลืองคว้าแชมป์รายการนี้พร้อมทำสถิติไม่แพ้ใครตลอดเส้นทาง 17 เกม ‘ตั้งแต่ช่วงแรกๆ บางวันเรามาที่สนามเวลา 6 โมงเช้าเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเกมในวันอาทิตย์ ทั้งหมดนี้ทำให้การเดินทางคุ้มค่า’
‘เรากำลังพูดถึงการสนุกกับช่วงเวลานี้ ท้ายที่สุดคุณภูมิใจที่ได้แชมป์ แต่ถ้าคุณไม่ชนะ คุณจะรู้สึกเศร้า การคว้าชัยชนะเป็นอีกก้าวหนึ่ง ซึ่งเป็นก้าวสำคัญ เราทำอาชีพนี้ในช่วงเวลาเหล่านี้ เราสามารถสร้างความสุขให้ผู้คนมากมาย’
เอเมรี่ เข้ามารับตำแหน่งเทรนเนอร์ของ บียาร์เรอัล เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2020 หลังถูก อาร์เซน่อล ปลดออกจากตำแหน่ง 9 เดือนก่อนหน้านั้น ก่อนเทรนเนอร์ชาวบาสโก้จะเขี่ยทีมเก่าตกรอบรองชนะเลิศ ต่อด้วยการโค่นทีมปีศาจแดงคว้าแชมป์ยูโรปาลีกสำเร็จ อย่างไรก็ตามเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ไม่ได้มองว่าเป็นความสำเร็จส่วนตัวของเขา
‘ผมยืนยันว่ามันไม่ใช่การแก้แค้นทางกีฬาแต่อย่างใด’ เอเมรี่ กล่าว ‘ผมพยายามสนุกกับทุกช่วงเวลาๆไม่ว่าจะชนะหรือพ่ายแพ้ ผมพยายามสร้างสถานการณ์ใหม่ๆ ดังนั้นทุกที่ที่ผมเคยไปแม้กระทั่งในอังกฤษที่ อาร์เซน่อล ผมได้เรียนรู้มากมาย พบกับผู้เล่นจำนวนมาก วัฒนธรรมที่แตกต่างและฟุตบอล’
‘ตอนจบของเรื่องนั้นเป็นความยุ่งยากของมืออาชีพ แต่ประตูอื่นๆยังเปิดหลังจากนั้น ชัยชนะในวันนี้เป็นเรื่องที่น่าพึงพอใจ แต่สำหรับสโมสรของผมในวันนี้เหมือนตอนที่ผมอยู่ที่ เซบีย่า ตอนที่ผมอยู่ที่ อาร์เซน่อล ในรอบชิงชนะเลิศยูโรปาลีกและไม่ประสบความสำเร็จ แต่มันเป็นกระบวนการ จากเกมนั้นผมได้เรียนรู้มากมายจนชนะเกมนี้’
หากวัดกันเฉพาะความสำเร็จบนเวทียุโรปของสโมสร แมนฯยูไนเต็ด เหนือกว่าชัดเจนจากการคว้าแชมป์ ยูโรเปี้ยน คัพ หรือ แชมเปี้ยนส์ลีก ในปัจจุบัน 3 สมัย, คัพวินเนอร์ส คัพ 1 สมัย และ ยูโรปาลีก 1 สมัย ขณะที่ บียาร์เรอัล ไม่เคยคว้าแชมป์มาก่อนหน้านี้และยังผ่านเข้ามาถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกของสโมสรด้วย
แต่ถ้าเทียบประสบการณ์ของเทรนเนอร์ อูไน เอเมรี่ ข่ม โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เช่นกัน เนื่องจากเป็นการนำทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศครั้งแรกของกุนซือชาวนอร์วีเจี้ยน แต่เป็นครั้งที่ 5 ของ เอเมรี่ ก่อนเทรนเนอร์ชาวบาสโก้จะแสดงให้เห็นถึงความช่ำชองในการเล่นเพื่อตำแหน่งแชมป์นั้นมีความสำคัญเพียงใด
‘ผมคิดว่านักเตะแสดงให้เห็นถึงความคิดที่ดีตลอดการแข่งขันและในรอบชิงชนะเลิศ’ เอเมรี่ กล่าว ‘เรารู้วิธีแข่งขัน, ความเจ็บปวด, การทำประตู และ เราจบได้แข็งแกร่งกว่าพวกเขา’
‘จุดโทษไม่ใช่การจับสลาก คุณต้องมีความคิดที่แน่วแน่ในการยิงในสถานการณ์ที่กดดันสูงสุดและนักเตะยอดเยี่ยมมาก’
เอเมรี่ เริ่มต้นงานเทรนเนอร์กับ ลอร์ก้า เดปอร์ตีบา ในช่วงเดือนธันวาคมปี 2004 จากนั้นจึงย้ายไปทำงานกับหลายสโมสรทั้ง อัลเมเรีย, บาเลนเซีย, สปาร์ตัก มอสโก, เซบีย่า, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง, อาร์เซน่อล จนกระทั่งถึงต้นสังกัดปัจจุบัน บียาร์เรอัล
เทรนเนอร์วัย 47 ปีประสบความสำเร็จตลอดเส้นทางอาชีพไม่น้อยเช่นกัน นอกเหนือจากการนำ เซบีย่า คว้าแชมป์ยูโรปาลีก 3 สมัย กับการนำ บียาร์เรอัล คว้าแชมป์รายการเดียวกันในซีซั่นล่าสุด เอเมรี่ ยังนำ เปแอสเช คว้าแชมป์ ลีก เอิง 1 สมัย, เฟร้นช์ คัพ 2 สมัย, เฟร้นช์ ลีก คัพ 2 สมัย และ เฟร้นช์ ซูเปอร์ คัพ 2 ครั้ง
อย่างไรก็ตามมันยังมีข้อสงสัยว่าเพราะเหตุใด เอเมรี่ ถึงไม่ประสบความสำเร็จกับ อาร์เซน่อล จนกระทั่งถูกทีมปืนโตปลดออกจากตำแหน่ง ซึ่งเทรนเนอร์ชาวบาสโก้ชี้แจงว่า ‘ข้อสงสัยเป็นสิ่งที่คุณสามารถผ่านไปได้ในอาชีพของคุณ คุณอาจมีข้อสงสัย แต่จากนั้นคุณจะพบคำตอบ’
‘ผมสงสัยว่า 11 คนที่ผมจะส่งลงสนาม ผมสงสัยเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงที่ควรทำระหว่างเกม ผมจะวางแผนการฝึกซ้อมอย่างไร แต่ด้วยความสงสัยเหล่านี้ ผมจึงตั้งคำถามกับตัวเองแล้วผมจะหาคำตอบ’
‘ผมสนุกกับอาชีพของผมเพราะผมชอบฟุตบอล ผมชอบทำงานในโลกฟุตบอล ผมชอบความรู้สึกของการอยู่ในสโมสรและทุกที่ที่ผมเคยอยู่ ผมปกป้องสีเสื้อของผมด้วยความภาคภูมิใจและเคารพทุกคน’
‘ความคิดของผมคือการนำประสบการณ์ของผมมาด้วยบางครั้ง ผมทำได้บางครั้ง บางครั้งก็ไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ผมสนุกกับการทำงานในฐานะโค้ช ผมสนุกกับการอยู่กับทีมของผม, สตาฟฟ์ของผม ผมเป็นคนที่มองเห็นได้ชัดเจน แต่มีหลายคนที่อยู่ข้างหลังผมที่นำมาและมอบอะไรให้มากมาย มันเหมือนกันที่ อาร์เซน่อล, เซบีย่า, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และมันเหมือนกันที่นี่’
แม้จะล้มเหลวในการทำงานราวปีครึ่งที่ ‘เอมิเรตส์ สเตเดี้ยม’ แต่ เอเมรี่ กลายเป็นพระเจ้าของสาวกทีมเรือดำน้ำเหลืองในอีก 9 เดือนถัดมาจากการนำ บียาร์เรอัล คว้าแชมป์แรกนับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรเมื่อปี 1923 แถมฟ้ายังลิขิตให้เป็นแชมป์รายการนี้ช่วยการันตีคำว่า ‘มิสเตอร์ยูโรปาลีก’ ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย
คลิกเลย >>> UFABETWINS
อ่านเพิ่มเติม >>> บ้านผลบอล